วันเสาร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2559

วีธี Import Preset Lightroom แบบง่ายๆ

เมื่อพูดถึงโปรแกรมแต่งภาพ

  เชื่อว่าหลายๆคนคงรู้จักเจ้าโปรแกรมที่ชื่อว่า Lightroom เป็นโปรแกรมแต่งภาพที่ได้รับความนิยมมากๆ ในยุคปัจจุบัน แต่ก็ยังมีปัญหาเล็กๆน้อยที่เราพบเจอเมื่อแต่งภาพ คือเมื่อเรามีรูปภาพเยอะๆ แล้วจะแต่งยังไงให้รวดเร็ว วันนี้ก็มีวิธีนึงที่เริ่มเป็นที่นิยมกัน นั่นก็คือการหา Preset มาใส่ ซึ่งมีทั้งที่แจกฟรีและเสียเงินซื้อ 
 
วันนี้เราจะมาพูดถึงวิธีการ Import Preset เข้า Lightroom ครับ พร้อมแล้วไปกันเลยยย...

1. เข้าไปโหลด Preset จากเว็บต่างๆได้เลยครับ ซึ่งก็มีแจกฟรีหลายๆเว็บเหมือนกันเช่นเว็บนี้ก็มีให้โหลดฟรีเหมือนกันครับ ดาวโหลด Preset 
2. เมื่อเราได้ Preset มาแล้วก็ทำการแตกไฟล์ครับ 


3. เมื่อเราทำการแตกไฟล์เรียบร้อยแล้ว ก็ให้ไปที่โปรแกรม Lightroom ของเราเลยครับ แล้วคลิ๊กขวาตรงที่เมนู แถบด้านข้าง ที่เขียนว่า Preset เมื่อเราคลิ๊กเสร็จก็จะมี ป๊อบอัพสีขาวๆขึ้นมาเหมือนในรูปครับ แล้วก็เลือก Import ได้เลยครับ แล้วก็ไปเลือกไฟล์ที่เราทำการแตกไฟล์ไว้ครับ


4. เมื่อเรา Import เข้ามาเรียบร้อยแล้วก็ไปเลือกเอา Preset ตัวนั้นมาใช้กับภาพของเราได้เลยคร้าบ 


 ผลที่ได้ก็ตามรูปเลยคับ ถ้ายังไม่ถูกใจเราก็สามารถปรับความสว่างหรือปรับสีต่างๆได้ตามใจชอบเหมือนเดิมเลยครับ 

เป็นเทคนิคง่ายๆที่เราสามารถนำมาใช้เพื่อให้เราสะดวกต่อการแต่งภาพของเรา และยังประหยัดเวลาเมื่อเราจำเป็นต้องทำหลายๆภาพด้วยครับ 

วันเสาร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

พาเที่ยวงาน เทศกาลบางกอกแหวกแนว Bangkok Edge Festival


 วันนี้มีงานชิวๆดีๆฟรีๆมาฝากเพื่อนๆหนึ่งงานครับ ซึ่งวันนี้จะวันสุดท้ายของการจัดงาน เมื่อวานผมได้มีโอกาสไปเดินเที่ยวชมในงานครับ ก็เลยถือโอกาสเก็บภาพบรรยากาศมาฝากกันครับ ซึ่งงานนั้นจัดขึ้นที่มิวเซียมสยามและจักรพงษ์วิลล่า งานจะมีตั้งแต่วันที่  13-14 กุมภาพันธ์ 2559 โดยงานจะเริ่มตั้งแต่เวลา 12:00 - 24:00 น.

Cr.http://www.bangkokedge.com/
การเดินทางไปนั้นไม่ยากครับถ้าไปรถส่วนตัวเค้ามีที่จอดให้ครับ หรือจะไปรถสาธารณะก็ได้สะดวกดีครับ


บริเวณหน้างานครับเมื่อเราเดินเข้าไปจะมีเจ้าหน้าที่ติดสติ๊กเกอร์ให้ก่อนเข้างาน

Bangkok Edge บางกอกแหวกแนว
Bangkok Edge บางกอกแหวกแนว
Bangkok Edge บางกอกแหวกแนว
Bangkok Edge บางกอกแหวกแนว
ภายในงานหลังจากที่เราผ่านประตูทางเข้ามาแล้ว ก็จะมีร้านอาหารให้เลือกกินเลือกรับประทานกันได้มากมายเลยคร้าบ ใครที่หิวๆก็หาอะไรรองท้องซักหน่อย ผ้าสีแดงสีส้มห้อยโตงเตงผมว่าให้บรรยากาศงานวัดสุดๆคลาสสิคดี ^^

Bangkok Edge บางกอกแหวกแนว
Bangkok Edge บางกอกแหวกแนว
Bangkok Edge บางกอกแหวกแนว
Bangkok Edge บางกอกแหวกแนว
Bangkok Edge บางกอกแหวกแนว
Bangkok Edge บางกอกแหวกแนว
Bangkok Edge บางกอกแหวกแนว
Bangkok Edge บางกอกแหวกแนว
Bangkok Edge บางกอกแหวกแนว
ในงานจะมีของขายให้ขาช็อปได้ดีใจด้วยน่ะครับ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือก็มี เสื้อผ้าก็มี และกระเป๋าเท่ๆแบบนี้เหมาะกับวัยรุ่นอย่างเราจริงๆเลยเนอะ งาน Hand Made ก็มีน่ะครับ เมื่อเดินช็อปเดินชมจนทั่วงานแล้ว ต่อไปก็คือมานั่งชม Concert ชิวๆ (แต่จริงๆไม่ชิวน่ะ คนยืนเต็มเลย^^ ) เขามีหนังสั้นฉายให้ดูด้วยน่ะครับ ก่อน Concert เริ่ม

Bangkok Edge บางกอกแหวกแนว
Bangkok Edge บางกอกแหวกแนว
Bangkok Edge บางกอกแหวกแนว
Bangkok Edge บางกอกแหวกแนว
Bangkok Edge บางกอกแหวกแนว
ปิดท้ายด้วย Concert  Hugo, Ornaree , Lek Greasy Cafe' 

Bangkok Edge บางกอกแหวกแนว , Hugo
Bangkok Edge บางกอกแหวกแนว , Ornaree
Bangkok Edge บางกอกแหวกแนว , Lek Greasy  Cafe'
Bangkok Edge บางกอกแหวกแนว , Lek Greasy  Cafe'
Bangkok Edge บางกอกแหวกแนว , Lek Greasy  Cafe'

งานจะจัดถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2559 น่ะครับ วาเลนไทน์นี้ใครยังไม่มีที่ไปเที่ยวก็พาแฟนหรือพาเพื่อนๆไปเดินดูงานชิวๆได้น่ะครับ แถมยังมี Concert ให้ดูฟรีๆอีกด้วย งานนี้ต้องบอกว่าคุ้มครับ 

Cr.http://www.bangkokedge.com/
วิธีเดินทางไปงาน เทศกาลบางกอกแหวกแนว
พื้นที่เทศกาลบางกอกแหวกแนวสามรถเข้าถึงได้ด้วยการเดินทางสาธารณะหลายรูปแบบ

1. BTS ต่อ เรือ - เดินทางมาที่สถานีสะพานตากสินขึ้นเรือด่วนเจ้าพระยามาลงที่ท่ายอดพิมาน เดิน 5 นาที หรือลงเรือด่วนเจ้าพระยาที่ท่าเตียนเดิน 6 นาที

2. MRT - เดินทางมาลงที่สถานีหัวลำโพง นั่งรถประจำทางสาย 73 หรือ 73ก ลงที่สะพานสมเด็จพระพุธยอดฟ้า เดิน ประมาณ 7-8 นาที 

Cr.http://www.bangkokedge.com/

 รายละเอียดเพิ่มเติม คลิ๊ก Bangkok Edge Festival




วันเสาร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

14 กุมภาฯ แล้วไงล่ะ [ คนโสดรับมือกับวาเลนไทน์ ]


  หากพูดถึงเทศกาลแห่งความรักที่มีปีล่ะครั้งแล้วล่ะก็ คงหนีไม่พ้นเดือนนี้แหละครับเดือน "กุมภาพันธ์" หรือที่เรียกติดปากกันว่า "วันแห่งความรัก" นั่นเอง ไหนๆก็ใกล้จะถึงวันที่ 14 กุมภาฯล่ะ ไม่ให้เขียนถึงได้ไงเนอะ แต่ผมไม่ได้เขียนเอาใจคนมีแฟนน่ะ เบื่อจังเลยเดินไปไหนมาไหนก็เห็นคู่รักเดินจับมือกันอิจฉาน่ะเฟ้ยย... (โสดแล้วพาล)
  เห็นเพื่อนๆพี่ๆน้องๆในเฟสบุ้คสังคมออนไลน์บ่นกันว่า วาเลนไทน์แล้วยังไม่มีแฟนเลย โน้นนี่นั่นมากมาย คุณไม่ต้องน้อยใจไปครับ เพราะว่ายังมีเพื่อนๆคนอื่นๆที่มีชะตากรรมเดียวกับคุณอยู่ไม่น้อยเลย แล้วเราจะทำอย่างไรล่ะ ให้วาเลนไทน์นี้ไม่เหงา คิดๆแล้วก็ปวดหัวอยู่เหมือนกันน่ะเนี่ย
  เอาล่ะผมมีวิธีรับมือคร่าวๆมาแนะนำแก่เหล่า "คนโสด" ทั้งหลาย

1. งดเข้าโลกออนไลน์
    เช่นเฟสบุ้ค เพราะคุณอาจจะทำใจไม่ได้กับรูปคู่ที่เกลืนเต็มหน้าฟีดเฟสบุ้คของคุณ เพราะคุณจะอิจฉาพวกเขาเหล่านั้น ทางที่ดีคืองดครับงดเข้าโลกออนไลน์แล้วนอนอยู่บ้านนิ่งๆดีที่สุด ^^


2. พาครอบครัวไปเที่ยวพักผ่อน
    มันจะดีขนาดไหนหากเราใช้วันพิเศษแบบนี้พาครอบครัวไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ มันจะทำให้เราคิดถึงแต่เรื่องที่อยู่ตรงหน้าคือคนในครอบครัว ช่วงเวลานั้นคุณจะลืมเรื่องวันวาเลนไทน์ไปเลย


3. ออกไปปาตี้กับเพื่อน
    ข้อนี้ผมเชื่อว่าหลายๆคนเคยทำ เพราะนอกจากคุณจะได้สนุกสนานกับการกินดื่มกับเพื่อนๆแล้ว ตามผับบาร์ที่คุณไป ไม่แน่อาจมีสาวโสดที่ยังคงเหงาใจมานั่งร้านเดียวกับคุณก็เป็นได้ บางทีคุณอาจไม่โสดกลับไปด้วยน่ะ


4. ออกไปเที่ยว
    ลองจัดทริปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อนๆดูครับ ยิ่งทุกวันนี้มีที่เที่ยวเยอะมากๆ เลือกไปได้ตามใจชอบเลย ไม่แน่คุณอาจจะเจอเนื้อคู่ของคุณที่นั่นก็ได้ มันคงจะโรเมนติกไม่น้อยน่ะครับ หากว่าเราพบรักในสถานที่ ที่เราไปเที่ยว และมีเรื่องแบบนี้มีเล่าให้เพื่อนๆฟัง เขาคงอิจฉาคุณแน่นอน


5. อยู่บ้านดูหนัง อ่านหนังสือเพลินๆ
    ถ้าไม่อยากออกไปไหนแล้วล่ะก็นอกจากจะนอนให้เวลานั้นผ่านพ้นไป หาหนังมาดูจะดีกว่าหรือไม่ก็
   หาหนังสือมาอ่านเพลินๆ ชิวๆ วิธีนี้นอกจากจะได้ความรู้เพิ่มขึ้นจากหนังสือที่เราอ่านอีกด้วย ไม่มีแฟนไม่เป็นไร    เอาความรู้ไว้ก่อน (มองโลกแง่บวก)


6. เข้าวัดทำบุญไหว้พระ
    การทำบุญถือเป็นสิ่งที่ดีมากๆครับ ช่วยสร้างบุญและกุศลอย่างน้อยๆก็ทำให้เราสบายใจ หรือจะขอพรให้ได้เจอเนื้อคู่เร็วๆก็ได้น่ะครับ ^^  เผลอๆคนข้างๆที่มาทำบุญร่วมกับคุณ อาจจะเป็นคนที่คุณตามหาก็ได้น่ะครับ อย่างน้อยๆการที่เราได้ทำบุญร่วมกัน แม้ไม่เคยรู้จักกันเลยก็ถือว่าเป็นการมัดจำล่วงหน้า หากได้เจอกันอีกครั้งก็ได้ครับ 


นี่ก็เป็นวิธีรับมือแบบคร่าวๆฉบับ Ontripbackpacker ที่นำฝากกันครับ ถึงอย่างไรก็แล้วแต่วันนี้คุณอาจจะครองความโสดไว้ แต่อีกไม่นานคุณจะได้พบเจอกับคนที่คุณตามหาเองครับ ของดีๆมักมาช้าแบบนี้แหละครับ ยังมีอีกหลายๆคนที่ 14 กุมภาฯนี้ก็ยังเหงาใจ เพราะฉนั้นอย่ากังวนเลยครับ ใช้ชีวิตตอนที่คุณยังโสดให้คุ้มค่าเถอะครับ ^^

"สุขสันต์วันแห่งความรักครับ"

กล้องบันทึก "ความทรงจำ"


   ลมหนาวเข้ามาอีกแล้วเช้านี้ตื่นมาหลายๆคนคงจะสัมผัสได้ถึงอากาศเย็นๆในตอนเช้า เพราะจากพยากรอากาศคนกรุงจะได้สัมผัสกับลมหนาวที่เข้ามา ยังไงก็รักษาสุขภาพกันด้วยน่ะครับ
   เดือนนี้ก็เป็นเดือนที่สองของปี 2016 กันแล้วน่ะครับ รู้สึกว่าแป๊บเดียวเองเนอะ ยังไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย ในปี 2015 ที่ผ่านมานั้นมีเหตุการณ์หลายๆอย่างเกิดขึ้น ทั้งเรื่องที่ดีและไม่ดีเราก็จำไว้เป็นบทเรียนคอยสอนใจตัวเอง แน่นอนว่าเวลามันไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขสิ่งที่ผ่านมาได้อีกแล้ว

  จะดีแค่ไหนถ้าเรามีเครื่องมีที่ช่วยบันทึกความทรงจำดีๆเหล่านั้นไว้ได้ ย้อนกลับไปเมื่อ 2 ปีก่อนหน้านี้ ผมมีกล้อง DSLR ตัวแรกในชีวิตนั่นก็คือเจ้า Nikon D5200 บวกเลนส์ Kit 18-55 mm (ที่ดรอบเรื่องเรียนไว้เพราะเอาตังค์ไปซื้อกล้องหมด ฮ่าๆ ) แรกเริ่มก็มาจากชอบเข้าเว็บ www.pixpros.net นี่แหละครับ มีรูปภาพสวยๆทั้งนั้นเลย ก็อยากถ่ายสวยๆแบบคนในเว็บเลยตัดสินใจซื้อกล้องเป็นของตัวเอง จากวันนั้นมาก็จะสามปีแล้วครับที่ฝึกหัดถ่ายภาพ แต่ฝืมือยังไม่ค่อยพัฒนาขึ้นเลยซึ่งก็คงต้องเรียนรู้กันต่อไป

  ซึ่งในบทความนี้ผมก็มีภาพถ่ายของปี 2015 บางส่วนมาฝากเพื่อนๆให้ติชมกันครับ

1. พระที่นั่งอนันตสมาคม [ Ananda Samakhom Throne Hall ]
    ตรงนี้จะเป็นที่นักถ่ายภาพทั้งหลายนิยมไปถ่ายกันมากๆครับ ยิ่งถ้าวันไหนฝนตกมีน้ำขังบริเวรด้านหน้าก็จะได้ภาพเป็นเงาสะท้อน (เคยเห็นในอินเทอร์เน็ต) ผมไปมาสองสามครั้งก็ยังไม่ได้ภาพแบบนั้นเลยครับ เศร้าแพร้พ T-T

พระที่นั่งอนันตสมาคม Ananda Samakhom Throne Hall
พระที่นั่งอนันตสมาคม ยามค่ำคืน Ananda Samakhom Throne Hall
2. เสาชิงช้า [ Giant Swing ]
    ตรงนี้เป็นอีกจุดนึงที่นิยมไปถ่ายภาพเหมือนกันครับ ซึ่งถือว่าเป็น Landmark อีกจุดนึงของกรุงเทพฯเลยก็ว่าได้ครับ

   เสาชิงช้า Giant Swing
เสาชิงช้า Giant Swing
3. อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย [ Democracy Monument ]
    ตรงนี้ก็ถือว่าเป็น Landmark อีกจุดนึงของกรุงเทพฯ เช่นกันครับ ผมเคยเห็นภาพมุมสูงสวยมากๆครับ แต่ไม่มีโอกาสได้ขึ้นไปถ่ายเองซักที
อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย Democracy Monument 
4. วัดพระแก้ว (วัดพระศรีรัตนศาสดาราม)[ Wat Phra Kaew ]
    ตรงนี้ถือว่าเป็นจุดไฮไลเลยครับ เพราะว่าเป็นวัดที่สวยที่สุดในกรุงเทพฯ (ในมุมมองของผม) ที่ต้องไปถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึกซะหน่อย
วัดพระแก้ว (วัดพระศรีรัตนศาสดาราม) Wat Phra Kaew
5. วัดอรุณราชวรารามฯ [ Wat Arun Rajwararam ]
    หรือ วัดแจ้ง นั่นเองครับจุดนี้ก็เป็นอีกจุดนึงที่ต้องไปถ่ายภาพเก็บไว้ ช่วงที่ผมไปถ่ายอยู่ในช่วงที่ปรับปรุงสถานที่อยู่ครับ
วัดอรุณราชวรารามฯ Wat Arun Rajwararam
6. สวนหลวง ร. 9 [ Suanluang RAMA IX
    เป็นสวนสาธารณะที่หลายๆคนชอบไปพักผ่อน หรือไปออกกำลังกายและเป็นอีกสถานที่นึงที่ผมชอบไปถ่ายภาพมากๆครับ เพราะเดินทางไม่ไกลจากที่พักอยู่ วันไหนเจอท้องฟ้าสวยๆตอนเย็นๆแสงสวยๆนี่ฟินกันเลยทีเดียวครับ
สวนหลวง ร.9 Suanluang RAMA IX
สวนหลวง ร.9 Suanluang RAMA IX
สวนหลวง ร.9 Suanluang RAMA IX
สวนหลวง ร.9 Suanluang RAMA IX
สวนหลวง ร.9 Suanluang RAMA IX
สวนหลวง ร.9 Suanluang RAMA IX
สวนหลวง ร.9 Suanluang RAMA IX
สวนหลวง ร.9 Suanluang RAMA IX
เห็นไหมครับว่าชอบไปที่นี่จริงๆ ^^ ภาพจะเยอะเป็นพิเศษ และไม่ใช่วันเดียวกันน่ะครับ ต้องไปหลายๆครั้งถึงจะได้หลายๆมุม เพราะบางทีถ้าจะเก็บให้หมดในครั้งเดียวนั้น วิ่งไปวิ่งมาคงไม่ทันแสงสวยๆแน่นอนครับ ^^ สองภาพหลังนี่เป็นตอนเช้าๆ 06:00- 07:00 น. ครับย้อนแสงพระอาทิตย์ขึ้น วันนั้นผมตื่นตี 5 เพื่อจะไปถ่ายภาพตรงมุมนี้ครับ อยากได้ภาพหลายๆมุมต้องถึกและทนครับ อิอิ

6. เมื่อพายุเข้า [ Rainstorm ]
    เป็นวันที่ฟ้ามืดครึ้มเหมือนฝนกำลังจะมา ผมออกไปมองหน้าระเบียงห้องเห็นแล้วก็รีบวิ่งไปเอากล้องมาถ่ายเก็บไว้ครับเห็นว่ามันสวยดี ^^

Rainstorm
Raistorm
Raistorm
Raistorm
Raistorm
7. Bangkok Black & White
    ผมมีโอกาสได้ไปถ่ายภาพให้น้องๆคณะพยาบาลแห่งหนึ่ง ก็เลยมีโอกาสได้ขึ้นไปถ่ายมุมสูง แต่ก็เป็นการถ่ายตอนกลางวันแดดแรงมากๆ ผมเลยทำเป็น ขาวดำซะเลย ^^

Bangkok Black & White
8. เขาใหญ่ทริป [ Khao Yai National Park ]
    ปีที่แล้วผมมีโออาสไปเขาใหญ่น่าจะสองครั้งน่ะครับ ป่าไม้สีเขียวกับเสียงที่เงียบสงบในผืนป่า มันทำให้รู้ว่า "หายใจเต็มปอด" เป็นยังไงเพราะอากาศสดชื่นมากๆ เย็นสบายไม่ต้องมีปัญหาเรื่องควันรถหรือมลพิษต่างๆเพราะมีป่าคอยช่วยดูดซับแล้วปล่อยเป็นอากาศที่บริสุทธิ์มาให้ปอดเราได้ชุ่มช่ำ ^^ ขึ้นเขาใหญ่ไปพักผ่อน (ปลายฝนต้นหนาว)

Khao Yai National Park
Khao Yai National Park
Khao Yai National Park
9. ยามเช้า ณ กาญจนบุรี [ Morning Kanchanaburi ]
    ถ้าให้เล่าถึงสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดกาณจนบุรีนั้น ผมว่าคงเล่าไม่หมดในบทความนี้แน่นอน เพราะเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะมากๆ เช่น นั่งรถไฟไปเที่ยวกาญฯ (สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก) และ นั่งรถไฟไป(เที่ยว)น้ำตกไทรโยคน้อย SAI YOK NOI รีสอทที่พักก็มีให้เลือกมากมาย อย่างที่ผมได้ไปพักก็จะเป็นที่นี่ครับ X2 River kwai Resort (Kanchanaburi) และยังมีอีกหลายๆที่ ที่ผมไม่ได้เอามาเขียนลงบล็อกครับ ต้องลองไปดูเอง ^^

ยามเช้า ณ กาญจนบุรี Morning kanchanaburi
10. พระอาทิตย์ตกที่ "ภูสอยดาว" [Sunset at Phusoidao ]
      ภาพนี้ก็ถือว่าอยู่ในปี 2015 น่ะเพราะว่าเป็นวันที่ 31 ธันวาคม 2015 >< ทริปภูสอยดาวที่ผมชอบเขียนถึงนั่นแหละครับ นั่งดูพระอาทิตย์ตกกับลมหนาวมากระทบเข้ากับตัวเรานี่มันฟินจริงๆนะครับ

ภูสอยดาว Phusoidao
ภูสอยดาว Phusoidao
นี่ก็เป็นแค่ภาพถ่ายบางส่วนจากปี 2015 ครับยังมีอีกหลายๆภาพที่ไม่ได้เอามาลง ส่วนจะสวยหรือไม่สวยนั้นอยู่ที่คนดูภาพครับ หน้าที่ของผมก็คือได้เก็บบันทึกถ่ายทอดมุมมองผ่านภาพถ่ายแล้วเอามาเล่นสู่กันฟังก็มีความสุขแล้วครับ การที่เรามีเครื่องมือช่วยบันทึกความจำนั้นมันทำให้เราสามารถเก็บบันทึกช่วงเวลานั้นๆเอาไว้ได้ และเมื่อคิดถึงสิ่งเหล่านั้นเมื่อไหร่เราก็แค่หยิบภาพถ่ายเหล่านั้นขึ้นมาดู และยิ้มให้กับเรื่องราวเหล่านั้นได้อีกครั้ง ขอบคุณเจ้า Nikon D5200 (เป็นกล้องตัวเล็กแต่คุณภาพเหลือล้นมากๆ) ที่คอยช่วยบันทึกความทรงจำในทริปต่างๆที่ได้ไปเที่ยวมา ทำให้มีภาพถ่ายมาเล่าให้เพื่อนๆพี่ๆได้ฟังได้ดูกันครับ "ขอบคุณครับ" ^_^

Disqus Shortname

Comments system